สวัสดีค่าาา ยอรอบุน บทความแปลจากภาษาอังกฤษชิ้นนี้ ถือเป็นบทความแรกเลย ที่ได้แปลลงในบล็อก
เป็นบทสัมภาษณ์ของยูซึงโฮผู้น่ารักของเรา ที่ได้ให้สัมภาษณ์หลังออกจากกรมทหาร เมื่อครั้งตอนที่ไปงานมีตติ้งที่ญี่ปุ่น ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เราอยากลง เผื่อมีใครอยากรู้จักผู้ชายคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น
มาอ่านกันเลยจ้า ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ขอบคุณบทความแปลภาษาอังกฤษจาก Eri @ YSHbiased www.yshbiased.blogspot.com
พวกเราถามยูซึงโฮว่า หลังจากที่เขาออกจากกรม เขาแสดงตัวกับผู้คนอย่างไร
เขายิ้มและอธิบายกับพวกเราว่า "ผมยังเป็นเหมือนเดิม ผมหมายถึงพวกเขาบอกผมว่า ผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันดีหรือเปล่า พูดตามตรง ผมจินตนาการไว้ว่า หลังออกจากกรม ผมจะต้องมีกล้ามและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแน่ๆ"
ยูซึงโฮ เข้าสู่วงการบันเทิง ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และในตอนนี้เขาเป็นนักแสดงมามากกว่าสิบปีแล้ว เขามีผลงานมากมายตั้งแต่เด็กจนโตและเราสามารถชื่นชมเขาได้จากผลงานเหล่านั้น
"แฮร์รี่" คือ บทที่เขาเล่นในเรื่อง Missing You ถือเป็นบทบาทที่ยากในการแสดง เพราะเวลาที่เขายิ้ม จะต้องเหมือนนางฟ้าที่มีหัวใจปีศาจ และยูซึงโฮก็สามารถทำมันออกมาได้ดี นั่นแสดงให้เห็นว่า เขาคือนักแสดงชายคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นนักแสดงเด็กอีกต่อไป เพราะตอนนั้นเขาอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น
มองย้อนกลับไปวันนั้น เขาพบว่าเขาเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย
"ผมมีทิฏฐินิดหน่อยก่อนที่ผมจะเข้ากรม ผมคิดเสมอว่า ผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง คนที่คิดต่างจากผม แสดงว่าเขาผิด พอได้คิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง ผมถึงได้รู้ว่า พวกเขาแค่เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ผมไม่ใช่คนที่โกรธใครนาน ผมคิดว่า คนบางคนอาจจะมีเหตุผลที่ถูกต้องหรือเป็นไปได้ในการพูดแบบนั้น ผมดีใจที่ได้เรียนรู้ในการคิดบวก"
มันใช้เวลานานทีเดียวสำหรับเขาในการมีความคิดแบบนั้น
เขาได้เปิดใจในงานมีตติ้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่โตเกียว ว่า " ตอนที่ผมเห็นนักแสดงผู้ชายในโทรทัศน์ตอนที่อยู่ในกรม ผมรู้สึกพ่ายแพ้และมองว่าพวกเขาดูเท่ห์ แต่ทำไมเราถึงมาอยู่ในนี้"
หลังจากที่ออกจากกรม เขาขับไล่ความรู้สึกพ่ายแพ้คนอื่นออกไป
เขาเลือกรับบทบาทใหม่จากหลายๆบทที่ได้เสนอให้และเขาก็ได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง "Joseon Magician" ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือ คิมแดซัน ผลงานที่ผ่านมา อาทิเช่น The Concubine, Bungee Jumping of their own ถือเป็นผู้กำกับที่ได้รับสมญานามว่าเป็นคนที่เก่งในการสร้างความหลากหลายของมนุษย์ในจอภาพยนตร์
ยูซึงโฮ กล่าวว่า "ผมคิดว่า ผมขาดหายจากการเป็นนักแสดงเป็นเวลานาน ผมจึงเชื่อว่า ผู้กำกับคิมจะสามารถดึงผมกลับมาเป็นผมได้เหมือนในตอนนี้ หลังจากนั้น ผมจึงตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หลังออกจากกรมจะมาเล่นภาพยนตร์ แต่ถ้าเป็นละคร มันก็จะยากเกินไปสำหรับผมในการเริ่มต้นใหม่หลังจากหยุดพักไป ถ้าผมรับเล่นละคร ผมอาจจะลุกลี้ลุกลนจนสูญเสียตัวตนและไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง"
เขาชื่นชอบบทบาทของตัวเองในภาพยนตร์
"ตัวละครที่ผมได้รับ จะไม่น่าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เขาเหมือนคนที่ไม่มีความสุขและมืดมน แต่มันก็จะมีเหตุการณ์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเขาให้เป็นคนดี และเขาก็จะพบหนทางในการใช้ชีวิต
บทภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากๆ เพราะคุณสามารถเข้าใจความรู้สึกของพระเอกที่ถ่ายทอดออกมาได้ผมคิดว่าผมสามารถถ่ายทอดมันออกมาให้ดีได้ แม้ว่ามันจะเป็นบทที่ยากสำหรับผมก็ตาม ผู้กำกับคิมได้อธิบายให้ผมฟังด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมเข้าใจตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น"
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่กังวลเกี่ยวกับมันเลย
"ผมสงสัยว่า ผมจะสามารถเล่นได้เหมือนแต่ก่อนไหม ผมไม่เชื่อเลยว่า ผมจะสามารถแสดงเหมือนก่อนเข้ากรมได้ มันเหมือนกับความฝัน....... ผมจะแสดงออกมาได้ดีไหม ผมไม่มีความมั่นใจที่จะทำมันเลย แต่เมื่อผมได้เข้ามาสู่การเล่นภาพยนตร์ ผมจะจำในสิ่งที่ผมเคยเป็นและสิ่งที่ต้องทำอันดับแรก คือ ผมต้องเริ่มต้นใหม่ในงานใหม่ๆที่เข้ามาและทำให้ดีที่สุด
ก่อนที่จะเริ่มบทบาทในภาพยนตร์ เขาได้จัดงานแฟนมีตติ้งที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
เขาพูดถึงงานแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่นว่า เขารู้สึกประหม่ามาก
"ผมมีความสุขที่ได้พบแฟนๆในหลากหลายช่วงอายุ ตอนที่ผมเล่นเกมส์กับแฟนคลับบนเวที แฟนคลับท่านหนึ่งซึ่งดูมีอายุหน่อยขึ้นมาบนเวที ท่านจับมือผมพร้อมกับพูดว่า "ผมเหมือนหลานชายท่านเลย" ท่านดีใจมากที่ได้เจอผม
ผมไม่ได้มีผลงานที่ญี่ปุ่นเลย แต่แฟนๆก็ยังติดตามผลงานของผมมาโดยตลอดและยังมาพบกันที่งานแฟนมีตติ้งด้วย ผมต้องทำงานให้มากขึ้นเพื่อพวกเขา ผมหายไปตั้งสองปี มันเป็นหน้าที่แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดกับพวกเขา แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีความสุขมากที่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"
และสุดท้าย ยูซึงโฮก็ได้ฝากข้อความถึงแฟนๆของเขา
" ผมคิดว่า คงมีบางคนที่ยังไม่รู้จักผมในญี่ปุ่น ผมหวังว่าจะได้รับโอกาส มีผลงานดีๆกับทางญี่ปุ่นต่อไปในอนาคต แต่ก่อนอื่นเลยคือ ผมต้องทำงานที่เกาหลีให้เสร็จก่อน และจะกลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในเร็วๆนี้ครับ ผมสัญญา" (^∇^)
แปลภาษาไทย โดย T.PANADDA 2020
2020.04.22
เป็นบทสัมภาษณ์ของยูซึงโฮผู้น่ารักของเรา ที่ได้ให้สัมภาษณ์หลังออกจากกรมทหาร เมื่อครั้งตอนที่ไปงานมีตติ้งที่ญี่ปุ่น ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เราอยากลง เผื่อมีใครอยากรู้จักผู้ชายคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น
มาอ่านกันเลยจ้า ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ขอบคุณบทความแปลภาษาอังกฤษจาก Eri @ YSHbiased www.yshbiased.blogspot.com
พวกเราถามยูซึงโฮว่า หลังจากที่เขาออกจากกรม เขาแสดงตัวกับผู้คนอย่างไร
เขายิ้มและอธิบายกับพวกเราว่า "ผมยังเป็นเหมือนเดิม ผมหมายถึงพวกเขาบอกผมว่า ผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันดีหรือเปล่า พูดตามตรง ผมจินตนาการไว้ว่า หลังออกจากกรม ผมจะต้องมีกล้ามและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแน่ๆ"
ยูซึงโฮ เข้าสู่วงการบันเทิง ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และในตอนนี้เขาเป็นนักแสดงมามากกว่าสิบปีแล้ว เขามีผลงานมากมายตั้งแต่เด็กจนโตและเราสามารถชื่นชมเขาได้จากผลงานเหล่านั้น
"แฮร์รี่" คือ บทที่เขาเล่นในเรื่อง Missing You ถือเป็นบทบาทที่ยากในการแสดง เพราะเวลาที่เขายิ้ม จะต้องเหมือนนางฟ้าที่มีหัวใจปีศาจ และยูซึงโฮก็สามารถทำมันออกมาได้ดี นั่นแสดงให้เห็นว่า เขาคือนักแสดงชายคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นนักแสดงเด็กอีกต่อไป เพราะตอนนั้นเขาอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น
มองย้อนกลับไปวันนั้น เขาพบว่าเขาเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย
"ผมมีทิฏฐินิดหน่อยก่อนที่ผมจะเข้ากรม ผมคิดเสมอว่า ผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง คนที่คิดต่างจากผม แสดงว่าเขาผิด พอได้คิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง ผมถึงได้รู้ว่า พวกเขาแค่เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ผมไม่ใช่คนที่โกรธใครนาน ผมคิดว่า คนบางคนอาจจะมีเหตุผลที่ถูกต้องหรือเป็นไปได้ในการพูดแบบนั้น ผมดีใจที่ได้เรียนรู้ในการคิดบวก"
มันใช้เวลานานทีเดียวสำหรับเขาในการมีความคิดแบบนั้น
เขาได้เปิดใจในงานมีตติ้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่โตเกียว ว่า " ตอนที่ผมเห็นนักแสดงผู้ชายในโทรทัศน์ตอนที่อยู่ในกรม ผมรู้สึกพ่ายแพ้และมองว่าพวกเขาดูเท่ห์ แต่ทำไมเราถึงมาอยู่ในนี้"
หลังจากที่ออกจากกรม เขาขับไล่ความรู้สึกพ่ายแพ้คนอื่นออกไป
เขาเลือกรับบทบาทใหม่จากหลายๆบทที่ได้เสนอให้และเขาก็ได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง "Joseon Magician" ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือ คิมแดซัน ผลงานที่ผ่านมา อาทิเช่น The Concubine, Bungee Jumping of their own ถือเป็นผู้กำกับที่ได้รับสมญานามว่าเป็นคนที่เก่งในการสร้างความหลากหลายของมนุษย์ในจอภาพยนตร์
ยูซึงโฮ กล่าวว่า "ผมคิดว่า ผมขาดหายจากการเป็นนักแสดงเป็นเวลานาน ผมจึงเชื่อว่า ผู้กำกับคิมจะสามารถดึงผมกลับมาเป็นผมได้เหมือนในตอนนี้ หลังจากนั้น ผมจึงตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หลังออกจากกรมจะมาเล่นภาพยนตร์ แต่ถ้าเป็นละคร มันก็จะยากเกินไปสำหรับผมในการเริ่มต้นใหม่หลังจากหยุดพักไป ถ้าผมรับเล่นละคร ผมอาจจะลุกลี้ลุกลนจนสูญเสียตัวตนและไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง"
เขาชื่นชอบบทบาทของตัวเองในภาพยนตร์
"ตัวละครที่ผมได้รับ จะไม่น่าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เขาเหมือนคนที่ไม่มีความสุขและมืดมน แต่มันก็จะมีเหตุการณ์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเขาให้เป็นคนดี และเขาก็จะพบหนทางในการใช้ชีวิต
บทภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากๆ เพราะคุณสามารถเข้าใจความรู้สึกของพระเอกที่ถ่ายทอดออกมาได้ผมคิดว่าผมสามารถถ่ายทอดมันออกมาให้ดีได้ แม้ว่ามันจะเป็นบทที่ยากสำหรับผมก็ตาม ผู้กำกับคิมได้อธิบายให้ผมฟังด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมเข้าใจตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น"
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่กังวลเกี่ยวกับมันเลย
"ผมสงสัยว่า ผมจะสามารถเล่นได้เหมือนแต่ก่อนไหม ผมไม่เชื่อเลยว่า ผมจะสามารถแสดงเหมือนก่อนเข้ากรมได้ มันเหมือนกับความฝัน....... ผมจะแสดงออกมาได้ดีไหม ผมไม่มีความมั่นใจที่จะทำมันเลย แต่เมื่อผมได้เข้ามาสู่การเล่นภาพยนตร์ ผมจะจำในสิ่งที่ผมเคยเป็นและสิ่งที่ต้องทำอันดับแรก คือ ผมต้องเริ่มต้นใหม่ในงานใหม่ๆที่เข้ามาและทำให้ดีที่สุด
ก่อนที่จะเริ่มบทบาทในภาพยนตร์ เขาได้จัดงานแฟนมีตติ้งที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
เขาพูดถึงงานแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่นว่า เขารู้สึกประหม่ามาก
"ผมมีความสุขที่ได้พบแฟนๆในหลากหลายช่วงอายุ ตอนที่ผมเล่นเกมส์กับแฟนคลับบนเวที แฟนคลับท่านหนึ่งซึ่งดูมีอายุหน่อยขึ้นมาบนเวที ท่านจับมือผมพร้อมกับพูดว่า "ผมเหมือนหลานชายท่านเลย" ท่านดีใจมากที่ได้เจอผม
ผมไม่ได้มีผลงานที่ญี่ปุ่นเลย แต่แฟนๆก็ยังติดตามผลงานของผมมาโดยตลอดและยังมาพบกันที่งานแฟนมีตติ้งด้วย ผมต้องทำงานให้มากขึ้นเพื่อพวกเขา ผมหายไปตั้งสองปี มันเป็นหน้าที่แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดกับพวกเขา แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีความสุขมากที่ได้เจอพวกเขาอีกครั้ง"
และสุดท้าย ยูซึงโฮก็ได้ฝากข้อความถึงแฟนๆของเขา
" ผมคิดว่า คงมีบางคนที่ยังไม่รู้จักผมในญี่ปุ่น ผมหวังว่าจะได้รับโอกาส มีผลงานดีๆกับทางญี่ปุ่นต่อไปในอนาคต แต่ก่อนอื่นเลยคือ ผมต้องทำงานที่เกาหลีให้เสร็จก่อน และจะกลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในเร็วๆนี้ครับ ผมสัญญา" (^∇^)
แปลภาษาไทย โดย T.PANADDA 2020
2020.04.22
Comments
Post a Comment